วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปลาสวยงาม

                         ปลาสวยงามนั้นมีอยู่หลากหลายชนิด ผมจะยกตัวอย่างบางชนิดที่เป็นที่นิยมในการเลี้ยงไว้ดูเล่นภายในบ้าน ทั้งชนิดที่มีราคาทั่วไปและบางชนิดมีราคาค่อนข้างสูง และวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่าง ตามแหล่งที่มา
                                                                   ปลาปอมปาดัวร์ 

 
ที่อยู่อาศัย : ลุ่มน้ำอะเมซอนทางทวีปอเมริกาใต้ในบราซิล เปรู และโคลัมเบีย
รูปร่างลักษณะ :  มีสีต่างๆมากมายคือ  ปลาปอมปาดัวร์ 5 สี  7 สี  รูปร่างกลมแบน  ครีบหลังและครีบท้องยาวเรียวโค้งรอบลำตัว  ลำตัวน้ำตาลอามแดง  มีลวดลายสีฟ้าเข้มแต้มทั่วบริเวณลำตัวแลความยาวไม่เกิน 7
นิ้วอุปนิสัย : ชอบกินลูกน้ำ  ไรแดง  ไรสีน้ำตาล  ไส้เดือน  หนอนแดง ไข่กุ้ง
ปลาหางนกยูง

ที่อยู่อาศัย : อเมริกาใต้  

รูปร่างลักษณะ: หางเด่นสะดุดตา ตัวเมียหางจะเล็กกว่าตัวผู้สีบริเวณลำตัวจะยาว ท้องมีขนาดใหญ่

การเลี้ยงดู สามารถเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นได้  ไม่ต้องอาศัยการดูแลมากนัก เพราะปลาชนิดนี้สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
ทองปลา
ที่อยู่อาศัย: ประเทศจีน

รูปร่างลักษณะ : พุงป่องอ้วน ตุ้ยนุ้ย

อุปนิสัย : การฟักตัวของไข่ของปลาทองสามารถปรับอุณหภูมิได้อยู่ระหว่าง 0-35 องศาเซลเซียส  ช่วงอุณหภูมิที่ดีที่สุดคือ 20-25 องศาเซลเซียส  ปลาทองเป็นปลาที่วางไข่ตลอดทั้งปีแต่จะชุกมากในเดือนเมษายน-ตุลาคม หรือช่วงที่อากาศไม่เย็นจนเกินไป  ปลาทองที่วางไข่ครั้งแรกแล้วจะสามารถวางไข่ติดต่อกันไปอีกเป็นเวลาประมาณ 6-7 ปี

การเลี้ยงดู : น้ำที่จะใช้เลี้ยงปลาทองหากเป็นน้ำประปาหรือน้ำบาดาลต้องมีการพักน้ำทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้สารพิษต่างๆ ที่ปนอยู่ได้คลายตัวไปบ้าง เช่น คลอรีน คาร์บอนไดออกไซด์    การย้ายแม่ปลาทองที่ออกไข่จะต้องย้ายทันทีเมื่อปลาทองวางไข่เพราะมันจะเริ่มกินไข่ของตัวเองทันทีในวันต่อมา

ปลาคาร์ฟ
ที่อยู่อาศัย : ดำรงชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำจืด ที่มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ดีมาก แม้ในสภาพอากาศร้อนปลาชนิดนี้
ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศได้ จึงแพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้ทั่วโลก
ลักษณะรูปร่าง : โดยทั่วไปปลาเพศเมียจะมีความกว้างของลำตัวมากกว่าปลาเพศผู้ บริเวณส่วนท้องจะใหญ่
นิ่ม ช่วงหัวจะกลม และป้านกว่าเพศผู้  ในฤดูสืบพันธุ์ปลาเพศเมียที่มีไข่แก่สมบูรณ์  จะมีส่วนท้องขยายกว้าง
ใหญ่ออกจนถึงเกือบจะเป็นรูปสามเหลี่ยม  เมื่อจับหงายท้องดูที่ช่องเพศจะสังเกตเห็นช่องเพศใหญ่และนูน
ออกเป็นรูปกลม ส่วนปลาเพศผู้ช่องเพศมีลักษณะเล็กเรียวกว่า และเว้าข้างในเล็กน้อย  เมื่อจับรีดท้องเพียง
เบา ๆ จะมีน้ำเชื้อสีขาวไหลออกมา และเมื่อเอามือลูบบริเวณแก้มหรือครีบหูจะรู้สึกสาก ๆ 

             ลักษณะแมวไทยไม่มงคล


   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง

แมวทุพลเพศ
มีขนสีขาว ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตทาตาไว้ มีนิสัยไม่ดีชอบลักขโมยปลาไปกินทุกคำคืน ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุขเกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ
แมวเหน็บเสนียด
ลักษณะเหมือนค่าง ชอบเอาหางขดซ่อนไว้ใต้ก้นเสมอ มีรูปร่างพิกลพิการ อย่าเลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้เสียชื่อเสียงและเกียรติยศ


ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่ไม่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน


ลักษณะแมวไทยไม่มงคล

   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง 

                                                     แมวพรรณพยัคฆ์ หรือแมวลายเสือ

แมวลายเสือ มีลักษณะคล้ายเสือ มีขนสีมะกอกเขียว หรือมะกอกแดง หยาบกระด้าง นันย์ตาสีแดงดั่งสีเลือด เสียงร้องโหยหวนเหมือนเสียงผีโป่งร้องตามป่าเขา ชอบหลบซ่อนตามที่มืดในเวลากลางวัน ไม่ควรนำมาเลี้ยง เพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อน
                                                                            หิณโทษ
แมวหิณโทษ แมวเพศเมียอีกชนิดที่ไม่ควรเลี้ยง แม้ว่าจะมีลักษณะดี ขนสวยงาม เข้ากับเจ้าของได้ดี แต่มีข้อเสียคือ ยามตั้งท้องครั้งใด ลูกแมวมักจะตายในท้องเสมอ ใครเลี้ยงไว้จะนำภัยพิบัติมาสู่บ้าน


ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่ไม่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน

ลักษณะแมวไทยมงคล

   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง

แมวปัดเสวตรหรือ แมวปัดตลอด
แมวชนิดนนี้ หากเลี้ยงไว้จะมีความเจริญมากกว่าคนในสกุลเดียวกันและได้ลาภยศ ตามความเชื่อโบราณ
ลักษณะ 

ตัวมีสีดำเป็นพื้น ตั้งแต่จมูกไปตามแนวสันหลังถึงปลายหางมีสีขาว ตาเหลืองคล้ายกับพลอย




ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน

ลักษณะแมวไทยมงคล


   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง

                                                                      แมวสิงหเสพย์
แมวสิงหเสพย์ หรือ แมวโสงหเสพย แมวชนิดนี้มีขนสีดำทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณริมฝีปาก จมูกและรอบคอ นัยน์ตาสีเหลืองทอง ใครเลี้ยงไว้จะทำให้มีสมบัติเพิ่ม

ลักษณะสีขน

ขนสั้น สีดำ มีขนสีขาวรอบจมูก และที่คอ
ลักษณะของส่วนหัว

รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
ลักษณะของนัยน์ตา

นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)

ลักษณะของหาง

หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว



ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน

ลักษณะแมวไทยมงคล


   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง
แมวมงคล...

แมวมาเลศ หรือแมวโคราช(แมวสีสวาด)

แมวโคราช หรือแมวมาเลศ ต้นกำเนิดพบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชในสมุดข่อยที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือประมาณ พ.ศ. 1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
แหล่งกำเนิดของแมว

เป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น (แม้ว่าลักษณะหางหงิกงอไม่ใช่มาตรฐานพันธุ์ตามหลักของ CFA ก็ตาม) แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
ลักษณะประจำพันธุ์ :

ของแมวสีสวาด แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือ แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา แมวโคราชเป็นแมวที่พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือเรารู้จักกันในนามว่าโคราช

ลักษณะสีขน :

ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย

ลักษณะของส่วนหัว :

หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน

ลักษณะของนัยน์ตา :

นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน

 ลักษณะของหาง :

หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว


ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

แมวไทย...

ลักษณะแมวไทยมงคลและไม่มงคล

   หลายคนคงชื่นชอบแมว แต่รู้หรือไม่ แมวไทยนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด หลายสายพันธุ์ บางชนิดเมื่อนำมาเลี้ยงอาจให้คุณประโยชน์ตามความเชื่อคนโบราณ บางชนิดนำมาเลี้ยงอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยง ดั่งจะยกตัวอย่างแมวที่ให้คุณและให้โทษหากนำมาเลี้ยง 

แมวมงคล...

แมวศุภลักษณ์ หรือ แมวทองแดง

แมวศุภลักษณ์.. ในสายตาฝรั่งแล้วเข้าใจว่าแมวทองแดงเป็นแมวพม่า เนื่องจากปี พ.ศ. 2473 ดร.โจเซฟ ซี ทอมสัน ชาวอเมริกัน ได้นำแมวตัวเมียสีน้ำตาลจากประเทศพม่ากลับไปที่ซานฟรานซิสโก แล้วนำไปจดทะเบียน ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งชื่อว่า Burmese Cat หรือแมวพม่า นั่นเอง และเป็นแมวพันธุ์หนึ่งที่มีคนเลี้ยงกันมากที่สุดในโลก แต่ในสายตาคนไทย ถือว่าแมวทองแดงเป็นแมวไทย เนื่องจากโครงสร้าง และลักษณะนิสัย เป็นแบบฉบับแมวไทย 

          ทั้งนี้ มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยาแตกนั้น พม่าได้กวาดต้อนคนไทยจำนวนหนึ่งไปเป็นเชลยศึกที่พม่าและมีแมวทองแดงตามเจ้าของเข้าสู่เขตแดนพม่าด้วย เนื่องจากเป็นแมวชั้นสูงเช่นเดียวกับแมวไทยพันธุ์อื่นๆ พวกขุนนางพม่า จึงนิยมเลี้ยงกัน พอพวกฝรั่งไปพบเข้าจึงเรียกเป็นแมวพม่าไป 

           แมวทองแดงมีรูปร่างขนาดกลาง สง่า น้ำหนักตัวพอประมาณ ขายาวเรียว ฝ่าเท้าอวบ ศีรษะค่อนข้างกลมกว้าง สีขนออกสีน้ำตาลเข้ม คล้ายสีสนิม (สีทองแดง) แต่จะมีสีเข้มมาก ขึ้นบริเวณส่วนหูและในหน้า นัยน์ตาสีเหลืองอำพัน เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ อยากรู้อยากเห็น ชอบผจญภัย รักอิสระเสรีเหนืออื่นใด ชอบสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว กับคนแปลกหน้าแล้วมันดูจะเป็นแมวที่ร้ายพอสมควร ปัจจุบันเมืองไทย หายากมาก แต่มีทั่วไปในอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งเขาได้พัฒนาผสมพันธุ์กัน จนได้แมวในลักษณะ และสีอื่นๆ มากมาย ทำนองคล้ายพันธุ์วิเชียรมาศที่แยกออกไปถึง 8 พันธุ์

ลักษณะสีขน


          ขนสั้น สีน้ำตาลเข้มคล้ายสีสนิม (สีทองแดง) บริเวณส่วนหู ใบหน้า ปลายขา หาง จะมีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆ ไป 

 ลักษณะของส่วนหัว 


          ค่อนข้างกลมและกว้าง หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง หูใหญ่

 ลักษณะของนัยน์ตา 


          แมวชนิดนี้จะมีดวงตาออกเป็นลักษณะเหลืองๆ หรือออกสีอำพัน หนวดของแมวศุภลักษณ์จะมีสีแวววาวเหมือนกับลวดทองแดงเลยทีเดียว

 ลักษณะของหาง 


          หางยาว ปลายหางแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขาวยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อยของพันธุ์ 


          ขนยาวเกินไป สีอ่อนเกินไป มีแต้มสีขาวปน เช่น ที่บริเวณหน้าอก หรือช่องท้อง มีไม่สม่ำเสมอ เช่น มีลายเห็นเป็นทางตามลำตัว โดยเฉพาะตามใบหน้า ขาและหาง นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี


ครับ...นี่คือสายพันธุ์ของแมวไทยบางส่วนที่เป็นมงคลหากนำมาเลี้ยง บางชนิดยังคงมีให้เห็นอยู่ และอีกหลายชนิดก็ได้สูณพันธุ์ไปแล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้อาจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่คุณผู้อ่าน